วิธีการเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย

การเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน ไม่อยากให้น้องๆยึดติดกับวิธีใดวิธีหนึ่ง แค่เราไม่สามารถทำตามวิธีที่คนเก่งๆทำได้ไม่ได้แปลว่าเราจะทำไม่ได้ เราต้องหาวิธีที่เข้ากับตัวเรามากที่สุดเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด พี่เลยอยากจะเสนอวิธีของพี่ให้น้องๆได้ลองทำดูนะคะ

1. รู้เป้าหมาย 
การที่เราไม่รู้เป้าหมายของตัวเองทำให้เราไม่รู้ว่าต้องเตรียมตัวยังไง ถึงแม้น้องบางคนอาจจะยังไม่รู้ว่าตัวเองอยากเป็นอะไร แต่อย่างน้อยแต่ละคนก็ต้องมีคณะในดวงใจซักคณะ ให้เราศึกษาว่าการเข้าคณะทำอย่างไรได้บ้าง มีรับตรงมั้ย มีโควตาพิเศษมั้ย มีในรอบแอดมิชชั่นมั้ย และต้องใช้คะแนนอะไรในการยื่น การที่เราหาข้อมูลอย่างละเอียดจะเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสให้ตัวเราเอง เพราะจะทำให้เรารู้ว่าเราต้องเตรียมตัวอย่างไร

2. รู้จุดยืนของตัวเอง 
การรู้จุดยืนของตัวเองจะทำให้เรารู้ว่าเราอยู่ในระดับไหนเมื่อเทียบกับเป้าหมายนั้น เราต้องปรับปรุงอะไรอีก จุดอ่อนจุดแข็งของเราคืออะไร เราจะต้องทำอะไรบ้างเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย ถ้าน้องไม่รู้ว่าเราอยู่ห่างจากเป้าหมายแค่ไหน วัดได้ง่ายๆโดยการลองทำข้อสอบเก่า บางคนอาจจะอยากเก็บข้อสอบเก่าไว้ทำช่วงใกล้สอบ แต่พี่ว่าข้อสอบเก่าเป็นตัววัดที่ดีมาก ทำให้รู้เลยว่าเรายังอ่อนจุดไหนบ้าง และเหลือเวลาอีกเท่าไหร่ในการปรับปรุงจุดด้อยเหล่านั้น

3. วางแผนเป็น 
การแบ่งเวลาในการอ่านว่าจากเวลาที่เหลือทั้งหมดเราจะจัดสรรในการอ่านอย่างไร เราอาจจะใช้เวลากับเรื่องที่ไม่ถนัดมากหน่อย แต่ก็ต้องไม่ชะล่าใจคอยทำเรื่องที่เราถนัดอยู่เรื่อยๆ น้องอาจจะอ่านให้จบทีละวิชา หรืออ่านหลายๆวิชาไปพร้อมกันก็ได้แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน และต้องไม่ลืมที่จะเหลือเวลาไว้จับเวลาทำข้อสอบเก่าด้วย ห้ามลืมเด็ดขาด เพราะในห้องสอบจริงนั้นน้องจะมีเวลามากดดันซึ่งอาจจะทำให้ประสิทธิภาพการทำข้อสอบน้อยลง ต้องฝึกไว้และสังเกตตัวเราว่าเรามักจะผิดพลาดตรงไหน อย่าลืมดูว่ารันช้อยผิดหรือเปล่า กาผิดช่องหรือเปล่า กาครบทุกช่องหรือเปล่า ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ในวันสอบจริง เราจึงต้องรอบคอบเสมอแม้จะเป็นการลองทำข้อสอบเก่า และเวลาวางแผนหรือจัดตารางการอ่านหนังสือ พี่อยากจะแนะนำให้น้องๆไม่ต้องทำแผนที่ตึงเครียดหรือหนักหน่วงจนเกินไป เพราะอาจจะเกิดการกดดันตัวเองเมื่อทำไม่ได้ตามแผน จนสุดท้ายแผนก็ล่มในที่สุด ทำในแบบที่พอดีๆดีกว่านะ

4. เวลาที่เหมาะสม
เวลาที่เหมาะสมในการอ่านคือเวลาที่สมองเราปลอดโปร่งที่สุด อ่านแล้วเข้าหัวที่สุด ไม่ใช่แค่กางหนังสือแล้วกวาดตาผ่านๆโดยที่มันไม่ได้เข้าหัวเลย แต่ละคนมีเวลาที่เหมาะสมในการอ่านหนังสือไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะชอบตื่นมาอ่านตอนเช้ามืด บางคนอ่านจะชอบอ่านตอนดึกๆ หรือบางคนอาจจะอ่านทีละเล็กทีละน้อยไปเรื่อยๆระหว่างวัน ทำวิธีที่เราถนัดที่สุด ไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเองไปทำในแบบที่ไม่ใช่เรา เช่นเรารู้ตัวว่าเป็นคนนอนดึกแต่พยายามตื่นเช้ามืดมาเพื่ออ่านแต่สุดท้ายก็ผลอยหลับไปทุกที สุดท้ายก็อ่านไม่รู้เรื่อง ท้อใจ แล้วก็เลิกอ่าน พี่อยากให้น้องเน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพนะ เคยได้ยินมั้ยที่เค้าบอกกว่า “ไม่จำเป็นต้องอ่านทุกเวลาที่ตื่น แค่ตื่นทุกเวลาที่อ่านก็พอ” ถ้าเราอ่านแล้วไม่มีสมาธิ อ่านแล้วมันไม่เข้าหัวเลย ก็พักเถอะค่ะ แล้วค่อยกลับมาอ่านใหม่ในตอนที่เราพร้อมดีกว่า

5. ความต่อเนื่อง
ความต่อเนื่องในการอ่านหรือทำโจทย์นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถึงแม้น้องจะเคยอ่านเรื่องนี้จบไปแล้ว ทำข้อสอบเก่าวิชานี้จบไป ก็อย่าทิ้งมันไปเลย เอามาทำเรื่อยๆ ไม่งั้นอาจจะลืมได้ สังเกตง่ายๆจากเวลาจะสอบที่โรงเรียน ก่อนสอบอ่านแทบเป็นแทบตาย แต่พอปิดเทอมไปแปปเดียวก็ลืมแล้ว เพราะฉะนั้นทุกอย่างต้องทำอย่างต่อเนื่อง อย่าชะล่าใจไปนะ

6. Checkตัวเองอยู่เสมอ
น้องสามารถทำได้ง่ายๆโดยการทำสมุดจดข้อผิดพลาดของตัวเอง แล้วเอาข้อผิดพลาดนั้นมาทวนบ่อยๆเพื่อที่จะได้ไม่ทำผิดซ้ำอีก เวลาทำโจทย์แล้วสะเพร่าหรือทำผิดเพราะอะไรน้องก็เขียนไว้หน้าโจทย์ใหญ่ๆเลย ไม่ต้องอาย เวลากลับมาดูจะได้รู้ว่าเราพลาดตรงไหน พี่อยากจะฝากทริคในการทำข้อสอบอีกอย่างคือ เวลาตรวจข้อสอบเก่าที่เราทำ อยากจะให้แยกข้อออกมา ว่า สะเพร่ากี่ข้อ ทำผิดกี่ข้อ ทำไม่ได้กี่ข้อ มั่วถูกกี่ข้อ เขียนไว้ที่หัวข้อสอบเลย จะได้รู้ว่าเรายังต้องแก้ไขอะไรอีก และจะได้รู้ว่าทุกคะแนนที่ได้มามันมาจากความสามารถเราจริงๆเท่าไหร่

7. เตรียมใจให้พร้อม
ปีนี้จะเป็นปีที่หนักมากสำหรับน้องๆม.6ทุกคน เพราะนอกจากจะต้องเตรียมอ่านหนังสือสอบอย่างหนักหน่วงแล้ว น้องยังจะต้องเจอความกดดันจากเพื่อน จากที่บ้าน และปัญหาต่างๆที่ถาโถมเข้ามามากมาย แต่ถ้าน้องผ่านมันไปได้ น้องจะสตรองขึ้นและได้เรียนรู้หลายๆอย่างจากมันแน่นอน

สุดท้ายนี้ พี่อยากจะฝากกลอนดีๆไว้ให้น้องๆทุกคนนะคะ

ไม่ต้องบินให้สูงอย่างใครเขา

จงบินเอาเท่าที่เราจะบินไหว

ท่าที่บินไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร

แค่บินไปให้ถึงฝัน เท่านั้นพอ

-ครูวรางค์ภรณ์ เนื่องจากอวน–

นส.รัชภร  ฉัตรธนาเวช (แฟง)
รร.เตรียมอุดมศึกษา
สอบติดคณะทันตแพทยศาสตร์  ม.มหิดล